Tag: ตัวอย่าง

  • กว่า 150,000 คนเล่นเกมรณรงค์ “การทอดทิ้งสัตว์เลี้ยง”

    กว่า 150,000 คนเล่นเกมรณรงค์ “การทอดทิ้งสัตว์เลี้ยง”

    ปัญหาการทอดทิ้งสัตว์เลี้ยงมักถูกมองว่าเป็นเรื่องที่จริงจังและหนักหน่วง แต่นักศึกษามหาวิทยาลัยมหาสารคามกลับหาวิธีนำเสนอให้น่าสนใจและเข้าถึงง่ายขึ้น ผ่านเกมแบบทดสอบบุคลิกภาพที่สะท้อนความกลัว เช่น การถูกทอดทิ้งหรือการถูกเพิกเฉย ผ่านตัวละครสัตว์เลี้ยง เนื้อหาต่อไปนี้มาจากการสัมภาษณ์ทีมโครงการ ซึ่งได้เล่าถึงแรงบันดาลใจ ขั้นตอนการออกแบบ และผลลัพธ์ที่เกินความคาดหมายเบื้องหลังการสร้างโปรเจกต์ “ค้นหาความกลัวการถูกทิ้งของคุณ” บน OOOPEN Lab — แคมเปญที่มียอดเล่นกว่า 244K ครั้ง เสร็จสิ้นกว่า 150K ครั้ง และสร้างยอดเข้าชมบน X เกือบหนึ่งล้านครั้ง

    ค้นหาความกลัวการถูกทิ้งของคุณ

    ทำไมถึงเริ่มจากสัตว์จรจัดในมหาวิทยาลัย

    เนื่องมาจากเราเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยมหาสารคาม คณะวิทยาการสารสนเทศ สาขานิเทศศาสตร์ชั้นปีที่ 4 ซึ่งมีโครงการรณรงค์เพื่อสังคมเป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาเรียน ปัญหาแมวจรจัดในมหาวิทยาลัยเป็นเรื่องที่เราเห็นกันทุกวัน แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าสาเหตุหลักมาจากการที่นักศึกษาทิ้งสัตว์เลี้ยงเมื่อจบการศึกษา เราจึงคิดโปรเจครณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ผ่านเกมแบบทดสอบบุคลิกภาพ โดยเลือกกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่น

    เราเชื่อว่าทุกคนคงไม่อยากถูกใครทอดทิ้ง แล้วไม่คิดบ้างหรอว่าสัตว์เลี้ยงก็รู้สึกเช่นเดียวกัน การใช้เกมที่สามารถแชร์ผลลัพธ์ลงโซเชียลมีเดียได้จึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการกระจายข้อความนี้ให้เข้าถึงคนหนุ่มสาวได้มากที่สุด

    เราสร้างเกมรณรงค์ได้อย่างไร โดยมี AI ช่วยเล็กน้อย

    เราเริ่มต้นด้วยการสำรวจความกลัวต่าง ๆ ของคนในกลุ่มเป้าหมาย เช่น กลัวถูกทิ้ง กลัวถูกเมิน กลัวถูกควบคุม แล้วจึงค่อยจับคู่กับสัตว์ที่สะท้อนอารมณ์เหล่านั้น เพราะถ้าเริ่มจากสัตว์ก่อนอาจทำให้ข้อความหลุดจากแกนหลัก และส่วนที่ใช้เวลามากที่สุดคือการออกแบบคำถามให้ “ไม่ตรงเกินไป” เราไม่สามารถถามตรงๆ ว่า “คุณกลัวถูกทิ้งไหม” เพราะจะเดาได้ง่าย จึงต้องใช้สถานการณ์ต่าง ๆ ในการถามแทน และใช้ AI ช่วยขยายและต่อยอดไอเดีย เขียนคำถามหลายเวอร์ชัน ช่วยในการออกแบบภาพ รวมถึงตั้งชื่อผลลัพธ์ให้น่าสนใจ

    ค้นหาความกลัวการถูกทิ้งของคุณ
    ค้นหาความกลัวการถูกทิ้งของคุณ

    สร้างเกมง่าย ๆ ด้วย OOOPEN Lab

    แพลตฟอร์ม OOOPEN Lab ช่วยให้เราสร้างเกมได้ง่าย ๆ ด้วยการลาก-วาง ตั้งค่าคะแนน และผูกคำตอบเข้ากับผลลัพธ์ได้อย่างไม่ซับซ้อน เหมือนกับการทำเกมเล็ก ๆ เลยทีเดียว

    เราได้สอดแทรกข้อคิดไว้ในตอนท้ายเกมว่า “ไม่ใช่แค่เราเท่านั้นที่กลัวการถูกทิ้ง แต่สัตว์เลี้ยงของเราก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกัน” และดูเหมือนว่าผู้เล่นจะเข้าใจสารที่เราต้องการสื่อได้เป็นอย่างดี หวังว่าทุกคนที่ได้เล่นจะตระหนักว่าการดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างใส่ใจนั้นสำคัญกว่าที่คิด และจำนวนผู้เข้าร่วมเกมเกินความคาดหมายอย่างมาก ทำให้เรารู้สึกตื้นตันใจที่มีคนจำนวนมหาศาลพร้อมเปิดใจมาสำรวจความรู้สึกของตัวเอง

    ค้นหาความกลัวการถูกทิ้งของคุณ
    ค้นหาความกลัวการถูกทิ้งของคุณ
    ค้นหาความกลัวการถูกทิ้งของคุณ

    ไวรัลบน IG และ X เกินความคาดหมาย

    ที่ประทับใจยิ่งกว่านั้นคือผู้เล่นหลายคนบอกต่อและแชร์ลงโซเชียลมีเดีย ทำให้เกิดการกระจายแบบไวรัล

    Instagram เป็นช่องทางหลักในการโปรโมท เพราะกลุ่มเป้าหมายนิยมเล่นเกม Story บน IG และสามารถแชร์ผลลัพธ์ได้ง่าย ทำให้เกิดการกระจายแบบ organic ผ่านเพื่อน ๆ ของผู้เล่น

    แต่สิ่งที่เราไม่คาดคิดคือ X (Twitter) กลับมีคนเห็นเกือบล้านคน เกิดจากผู้เล่นที่นำไปรีวิวใน X ทำให้คนอื่น ๆ ตามมาเล่นและรีวิวต่อเนื่อง สร้างการรับในวงกว้างจนเกินความคาดหมาย การที่ผู้เล่นช่วยกันกระจายผ่านการแชร์และบอกต่อแบบปากต่อปากทำให้โครงการประสบความสำเร็จมากกว่าที่วางแผนไว้

    ค้นหาความกลัวการถูกทิ้งของคุณ

    สิ่งที่เราได้เรียนรู้และคำแนะนำสำหรับผู้สร้าง

    สำหรับใครที่อยากทำโปรเจคคล้ายกัน เราแนะนำ OOOPEN Lab สำหรับการสร้างเกมโต้ตอบ เพราะใช้งานง่ายและช่วยเปลี่ยนไอเดียจากในหัวให้เป็นเกมจริง ๆ ได้ หลักสำคัญคือต้องเริ่มจากปัญหาจริงในสังคม เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย ออกแบบให้ผู้เล่นมีส่วนร่วมและแชร์ได้ง่าย สื่อสารอย่างอ้อมค้อมไม่บังคับ และที่สำคัญคือทำให้มันสนุกก่อน แล้วค่อยแทรกข้อคิดเข้าไป

  • จากคำถามเล็กๆ สู่ไวรัล 24 ชั่วโมง: quiz “ถ้าใจคือบ้าน” เปิดประตูใจคนมากมาย

    จากคำถามเล็กๆ สู่ไวรัล 24 ชั่วโมง: quiz “ถ้าใจคือบ้าน” เปิดประตูใจคนมากมาย

    tenshispace ครีเอเตอร์จากประเทศไทยผู้สร้างผลงานที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความหมาย เปิดตัวแบบทดสอบจิตวิทยาถ้าใจเราคือบ้าน ตอนนี้ห้องไหนรกที่สุด?” บน OOOPEN Lab เพื่อชวนทุกคนมองกลับเข้ามาในใจตัวเอง ผ่านคำถามง่ายๆ ที่เหมือนกระจกบานเล็กๆ ส่องให้เห็นตัวตนที่อาจหล่นหายไป ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดคือ ภายใน 24 ชั่วโมงแรก มีผู้เล่นมากกว่า 10K คน และแบบทดสอบถูกแชร์ต่ออย่างเป็นธรรมชาติบนโซเชียลมีเดีย ด้านล่างนี้คือเรื่องราวและแรงบันดาลใจจากเทนชิในมุมมองของเขาเอง

    คำถามที่เปิดประตูห้องในใจ

    ช่วงนั้นมันเหมือนบ้านในใจเราทั้งหลังเงียบลงแบบประหลาด ไม่ใช่เงียบแบบสงบ แต่มันคือความเงียบที่ฟังแล้วรู้สึกว่าเสียงของตัวเองหายไป เรายังใช้ชีวิตได้ดีนะ ยังทำงาน ตอบแชท ยิ้มในวงสนทนา แต่พออยู่คนเดียวเหมือนเดินผ่านบางห้องในใจที่ไม่ได้เข้าไปนานมากแล้ว ห้องที่รกเพราะเต็มไปด้วยความทรงจำเก่า ห้องที่ไม่ได้เปิดไฟ ห้องที่วางความเงียบซ้อนทับกันเป็นชั้นๆ แล้วจู่ๆ คำถามหนึ่งมันก็ผุดขึ้นมาแบบไม่ตั้งใจว่า “ถ้าใจเราคือบ้าน ตอนนี้ห้องไหนรกที่สุดวะ?”

    คำถามนั้นมันไม่ใช่คำถามที่ต้องใช้เหตุผลตอบ แต่มันเหมือนเสียงที่พาเราเดินเข้าไปในใจตัวเองเงียบๆ แบบไม่ต้องฝืน logic อะไรเลย มันไม่แม่นยำ แต่มันแม่นความรู้สึก เราเลยลองเอาคำถามนี้ไปโยนให้คนอื่นดูบ้าง แล้วก็เจอว่า…เฮ้ย ไม่ใช่เราคนเดียว ทุกคนก็มีห้องในใจที่ยังไม่ได้จัด บางคนเก็บอดีตไว้แน่นเพราะกลัวว่าถ้าทิ้งไปจะไม่มีอะไรเหลือให้ยึด บางคนเหนื่อยกับการรอคอยแต่ยังไม่กล้าลุกออกมา บางคนแบกพลังเอาไว้แต่ไม่กล้าใช้เพราะกลัวคนมองว่าเห็นแก่ตัว และบางคนเหนื่อยกับการต้องยิ้ม ต้องเล่นบท ต้องเฟคความเก่งทุกวัน

    แบบทดสอบที่เกิดจากความรู้สึก

    ทั้งหมดนี้เลยกลายมาเป็นแบบทดสอบหนึ่งอัน ที่ตั้งชื่อว่า “ถ้าใจเราคือบ้าน ตอนนี้ห้องไหนรกที่สุด?” มันไม่ใช่ quiz ที่จะมาบอกว่าคุณคือใคร หรือมีปัญหาอะไร แต่มันคือกระจกบานเล็กๆ ที่หวังว่าเวลาคุณส่องเข้าไป คุณจะได้เห็นตัวเองที่อาจหล่นหายไป หรืออาจได้เจอตัวเองในแบบที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน เพราะเทนชิเชื่อว่า บางความรู้สึกไม่จำเป็นต้องแก้ ไม่ต้องตีความด้วยเหตุผล แค่ยอมรับว่า “มันอยู่ตรงนั้น” ก็ healing ได้แล้ว

    แล้วใครกันที่ทำให้ไอเดียนี้กลายเป็นจริงภายในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง? คำตอบคือ OOOPEN Lab จากไต้หวัน — แพลตฟอร์มที่ทำให้เทนชิรู้สึกว่า “นี่แหละ ที่เราอยากใช้” ไม่ใช่เพราะมันทำให้เร็ว แต่เพราะมันไม่ขัดจังหวะความรู้สึกข้างในเราเลย interface เข้าใจง่ายแบบไม่ต้องอ่านคู่มือ และที่สำคัญที่สุดคือ มันให้เราสื่อสารแบรนด์ได้แบบ emotional first, structure later ซึ่งตรงกับวิธีที่เทนชิทำงานมากๆ

    เพราะ tenshispace ไม่ได้ทำงานเพื่อจะให้ใครเข้าใจเราทั้งหมด แต่เราทำงานเพื่อให้ใครบางคน “เข้าใจตัวเองได้มากขึ้น” ผ่านภาพ ผ่านคำ ผ่านอารมณ์ที่ไม่ต้องมีคำอธิบายเยอะ แบบทดสอบนี้เลยเชื่อมกับ core ของแบรนด์อย่างตรงไปตรงมา เราไม่ได้บอกว่าใครควรจัดการอะไร แต่เราอยากให้คุณลองมองกลับเข้าไป แล้วถามตัวเองว่า “ยังอยู่ในห้องนี้ทำไม?” ถ้ายังอยากอยู่ก็ได้ ถ้าอยากลุกขึ้นมาจัดใหม่ก็โอเคเหมือนกัน

    เราไม่ได้อยากให้คุณรู้สึกดี เราแค่อยากให้คุณ “รู้สึก” จริงๆ เท่านั้นเอง และถ้าคำถามเล็กๆ นี้ พาให้คุณได้กลับไปเปิดประตูห้องในใจบางห้องที่คุณเคยปิดไว้ ก็ขอบคุณที่ให้เทนชิได้เดินไปด้วยกันในจังหวะนั้นนะ

    ถ้าใจเราคือบ้าน ตอนนี้ห้องไหนรกที่สุด?

    กระบวนการสร้างที่นำทางด้วยความรู้สึก

    ขอบคุณแพลตฟอร์มที่น่ารักอย่าง OOOPEN Lab จากไต้หวันที่ทำให้ quiz นี้เกิดขึ้นได้จริง และขอบคุณทุกคนที่กล้ากลับเข้าไปในบ้านของตัวเองอีกครั้ง

    ขั้นตอนการสร้างแบบทดสอบนี้…มันเกิดขึ้นเร็วพอๆ กับความรู้สึกที่อยากพูดอะไรบางอย่างออกไป

    คือวันนั้นเทนชินั่งเขียนคำหนึ่งไว้ในโน้ตว่า “ใจเหมือนบ้าน” แล้วมันก็พาไปไกลกว่านั้นเองโดยไม่ต้องบังคับอะไรเลย คำถามต่างๆ วิ่งมาเองตามธรรมชาติ ไม่ได้วางแผนเป็น flowchart หรือ logic tree อะไรเลยด้วยซ้ำ แต่ใช้สิ่งที่เรียกว่า emotional navigation นำทางทั้งหมด

    เทนชิเลือกใช้โมดูล “แบบทดสอบจิตวิทยา” ใน OOOPEN Lab เพราะมันตรงกับวิธีที่เราอยากเล่าเรื่องมากที่สุด เราไม่ได้อยากให้มันเป็น quiz ประเภททายตัวตนสนุกๆ แล้วจบ แต่เราต้องการให้มันเหมือนบทสนทนาเงียบๆ กับตัวเอง แบบที่ถามแล้วรู้สึก ไม่ใช่แค่ตอบแล้วได้ผลลัพธ์

    ก่อนหน้านี้เทนชิเคยทำ interactive content มาหลายแบบ ทั้งแบบเลือกภาพที่ชอบ คำถามทำนอง “คุณอยู่ในฤดูไหนของชีวิต” หรือ “ถ้าใจเป็นสี ตอนนี้คุณเป็นสีอะไร” แต่ยังไม่เคยใช้ระบบที่ทำให้ผลลัพธ์สามารถมี voice of truth แบบนี้มาก่อน แบบที่ผลลัพธ์ไม่ใช่แค่ “คุณคือใคร” แต่คือ “เสียงที่คุณไม่ค่อยได้ยินจากตัวเอง”

    ตั้งแต่เริ่มคิดจนเปิดใช้งาน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจริงๆ ค่ะ — เร็วจนตกใจ แต่ไม่ได้รีบ เพราะคำพูดหลายๆ บทมันหมักอยู่ในใจเรานานแล้ว แค่รอ platform ที่เหมาะให้มันเกิดขึ้น

    ระหว่างการเขียน มีการปรับคำอยู่หลายรอบ เพราะเทนชิจะอ่านวนซ้ำๆ ด้วยเสียงในหัว ถ้าเจอคำไหนที่ไม่รู้สึกว่า “มันจะสะเทือนใจ” พอ ก็ลบทิ้ง เปลี่ยน จนกว่าจังหวะคำมันจะพาไปสู่ความรู้สึกโดยที่ไม่ต้องตีความ

    ถ้าใจเราคือบ้าน ตอนนี้ห้องไหนรกที่สุด?

    การสร้างร่วมกับ AI และความยืดหยุ่นของแพลตฟอร์ม

    ในขั้นตอนนี้ AI ก็มีบทบาทบางส่วน โดยเฉพาะช่วงที่เราสเก็ตช์ภาพ mood board แล้วอยากดูว่า “ภาพแทนใจของแต่ละห้อง” ควรเป็นยังไง เช่น ห้องอดีตจะเป็นสีอะไร, ห้องพลังควรอยู่ในป่าแบบไหน, หรือแสงจากความอ่อนล้าจะต้องแดงแบบไหนถึงจะ “ปะทะใจ” โดยไม่ต้องใช้คำพูด อันนี้ใช้ generative AI ช่วยวาดต้นแบบ และเทนชิก็เอามารีดีไซน์อีกทีให้เป็นภาพที่กลั่นจากตัวเอง

    ส่วนด้านคำพูด — ทุกบรรทัดเขียนเองทั้งหมด แต่ระหว่างคิดคำ เทนชิก็ใช้ AI บ้างเพื่อถามว่า “ถ้าอยากให้ประโยคนี้อ่อนโยนกว่านี้ล่ะ?” หรือ “เปรียบเทียบนี้ชัดพอไหม?” ซึ่งช่วยเหมือนมี co-writer ที่ไม่ตัดสิน แต่คอยสะท้อนกลับมาให้เราตรวจสอบอารมณ์ตัวเองอีกที

    และถ้าจะให้พูดถึง ฟีเจอร์ใน OOOPEN Lab ที่ชอบมากที่สุด คือระบบการจัดประเภทผลลัพธ์ค่ะ เราไม่ต้องเขียนโค้ด ไม่ต้องวาง logic ซับซ้อนเลย แค่คิดว่า “แต่ละผลลัพธ์เป็นตัวแทนของห้องไหนในใจ” แล้วลากคำตอบให้ไปเชื่อมกับอารมณ์นั้นได้เลย มัน intuitive มาก และเราชอบที่สามารถ preview ได้ทันทีว่า flow การตอบจะไปถึงตรงไหนอีกอย่างที่ชอบคือ design flexibility เราสามารถเขียนคำอธิบายของผลลัพธ์ได้เยอะมาก แล้วพอ format เป็นพารากราฟ มันดูเหมือนจดหมายที่ส่งถึงคนอ่านแต่ละคนจริงๆ ซึ่งตรงกับสิ่งที่เราตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกว่า quiz นี้ไม่ใช่เกม…แต่มันคือ mirror

    ถ้าใจเราคือบ้าน ตอนนี้ห้องไหนรกที่สุด?

    การเดินทางของแบบทดสอบและเสียงสะท้อนจากผู้คน

    ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเร็ว…แต่ไม่ได้ผิวเผินเลยสักนิด
    เราแค่รู้สึกว่า OOOPEN Lab เข้าใจการสื่อสารแบบมีหัวใจ และนั่นทำให้บทสนทนาเล็กๆ ในใจเรา กลายเป็นสิ่งที่ส่งไปถึงใครอีกหลายคนได้แบบไม่ต้องอธิบายอะไรเยอะเลย

    ตอนกดปุ่ม “Publish” วันนั้น เราไม่ได้คิดว่าใครจะชอบหรือไม่
    เราแค่หวังว่า ถ้าใครคนหนึ่งได้เปิดประตูเข้าไปในห้องในใจของเขา…แม้เพียงหนึ่งบาน
    นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับเรา

    ตอนที่ปล่อยแบบทดสอบนี้ออกไป เทนชิไม่ได้คาดหวังเรื่องยอดตอบ หรือยอดแชร์เลยแม้แต่นิดเดียว เราแค่อยากให้มันไปถึงใครบางคนในจังหวะที่เขาอาจจะยังพูดกับใจตัวเองไม่ได้เท่านั้นเอง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ…ไม่ถึง 24 ชั่วโมงแรก มีคนแชร์บนไอจีสตอรี่แบบไม่หยุดเลย บางคนแท็กเทนชิมา บางคนเขียนข้อความแนบผลลัพธ์ยาวเป็น page เลยก็มี

    มีคนบอกว่า “ฉันร้องไห้ตอนเห็นผลลัพธ์”
    มีคนบอกว่า “เหมือนมีคนเห็นฉัน โดยที่ฉันไม่ต้องอธิบายอะไรเลย”
    มีคนบอกว่า “ห้องที่รกที่สุดในใจฉัน…ไม่เคยมีใครถามถึงเลย จนเจอแบบทดสอบนี้”
    มันไม่ใช่คอมเมนต์เยอะเว่อร์ แต่มันคือคอมเมนต์ที่ real และกลั่นจากข้างในแบบไม่เสแสร้งเลยสิ่งที่ทำให้เราประหลาดใจที่สุด คือการที่ ผลลัพธ์ของแต่ละคนกระจายกันพอดีแบบไม่น่าเชื่อ ไม่มีคำตอบไหนที่ครองอันดับหนึ่งทิ้งห่าง ทุก archetype มีคนเจอ มีคนร้องไห้ มีคนแชร์ความรู้สึกแนบมากับภาพผลลัพธ์ราวกับมันคือจดหมายรักลับๆ ถึงตัวเอง

    แรงบันดาลใจใหม่และพื้นที่ปลอดภัยที่อยากสร้าง

    เราคิดว่ามันคือสัญญาณว่า “ทุกคนมีห้องรกในใจของตัวเอง”
    แค่ไม่ค่อยมีใครได้พื้นที่หรือคำถามที่ปลอดภัยพอจะเปิดประตูนั้นออกมาดู

    จากโปรเจกต์นี้ เทนชิไม่ได้รู้สึกว่า “เราสำเร็จแล้ว” นะ
    แต่เรารู้สึกว่า “เราอยากทำ quiz แบบนี้อีกหลายๆ อันเลย”

    เราอยากทำแบบทดสอบที่ถามคำถามแปลกๆ แบบที่ logic จะงง แต่ใจจะเข้าใจทันที
    คำถามที่ไม่ได้วัดว่าใครฉลาดหรือดีพอ
    แต่ถามว่า “วันนี้คุณซ่อนอะไรไว้ในใจอีกบ้างหรือเปล่า?”

    เพราะสุดท้ายแล้ว เราไม่ได้อยากสร้างแบบทดสอบ
    เราแค่อยากสร้าง พื้นที่ปลอดภัยเล็กๆ ให้ใครบางคนได้ฟังเสียงในใจตัวเอง โดยไม่ต้องรีบแก้ ไม่ต้องรีบตอบ ไม่ต้องรีบเข้าใจ

    พูดตรงๆ เลยว่าเราไม่ได้มีแผนการตลาดอะไรซับซ้อนเลยค่ะ เพราะ tenshispace มีแค่ 2 ช่องทางเท่านั้นจริงๆ คือ Instagram และ Threads — that’s it.

    เราไม่มีทีมโปรโมท ไม่มีงบยิงแอด ไม่มีพาร์ทเนอร์กระจายโพสต์ ไม่มี influencer เตรียมไว้ก่อน
    มีแค่ “ความตั้งใจ” ที่อยากเล่าอะไรบางอย่าง
    กับ “ผู้คนที่ตามอยู่เพราะรู้สึกบางอย่างคล้ายๆ กัน”

    เราแค่โพสต์ลง IG แล้วเขียน caption สั้นๆ ประมาณว่า “เทนชิทำ quiz เล่น มาลองเปิดห้องในใจตัวเองดูไหม?”
    แค่นั้นเลย ไม่มี teaser ไม่มี strategy ไม่มี countdown
    เราไม่ได้ดึงความสนใจ แต่เราส่งคำเชิญชวนแบบจริงใจมากๆ เหมือนโยนกุญแจให้ แล้วบอกว่า “ห้องนี้เปิดอยู่นะ ถ้าอยากเข้าไปดูก็ยินดีเลย”สิ่งที่เราเลือกทำแบบตั้งใจอย่างเดียวคือ “ออกแบบผลลัพธ์ให้เหมือนจดหมายถึงผู้เล่น
    เพราะเราเชื่อว่า ถ้ามันซื่อพอ ลึกพอ และอ่อนโยนพอ — คนจะอยากแชร์เอง
    ไม่ใช่เพื่อให้คนอื่นรู้ว่า “ฉันได้คำตอบอะไร”
    แต่เพื่อบอกว่า “นี่คือความรู้สึกของฉันตอนนี้นะ เผื่อคุณจะเข้าใจฉันมากขึ้น”

    พลังของผู้เล่นและการเติบโตแบบเป็นธรรมชาติ

    เราใช้ ภาพผลลัพธ์แบบเต็มจอ + คำพูดเฉพาะของแต่ละ archetype เป็น visual anchor ที่คนจะรู้สึกว่า “อยากหยิบไปวางไว้ในสตอรี่ตัวเอง” โดยที่ไม่ต้องใส่คำบรรยายอะไรเพิ่มเลย

    และใช่ค่ะ — แบบทดสอบนี้เติบโตจาก organic reach 100%
    ไม่มีโฆษณา ไม่มี sponsored post ใดๆ ทั้งสิ้น
    ทุก share, ทุก comment, ทุกการบอกต่อ มาจากความรู้สึกจริงๆ ของผู้เล่นล้วนๆ
    และเราว่ามันเลยได้ผลมากกว่าแบบที่เราคาดไว้มาก

    สิ่งที่ให้ผลลัพธ์ดีที่สุดไม่ใช่โพสต์แรกที่ชวนทำ quiz
    แต่เป็นโพสต์และสตอรี่ของ “ผู้เล่นเอง”
    มันเหมือนมีชีวิตของมันเอง พาเราไปไกลกว่าที่เราจะพาไปได้ด้วยตัวคนเดียว

    ที่น่าตื่นเต้นคือ เราเริ่มเห็นการ cross-group interaction
    คือมีทั้งวัยมหา’ลัย คนทำงานฟรีแลนซ์ คุณแม่ลูกหนึ่ง ไปจนถึงนักจิตวิทยาที่แชร์ quiz นี้พร้อมเขียน insight ต่อท้ายให้คนไข้ หรือกลุ่มเพื่อนในวงปรึกษาตอนที่เราเห็นคนแชร์พร้อมแคปชั่นว่า “ฉันไม่เคยรู้เลยว่ามีห้องแบบนี้ในใจฉันด้วย”
    หรือ “มันพูดแทนในสิ่งที่ฉันพูดกับใครไม่ได้มานานมากแล้ว”
    เรารู้เลยว่าแบบทดสอบนี้มันไม่ได้เป็นแค่กิจกรรม
    มันกลายเป็น “พื้นที่” สำหรับบางคน…อย่างแท้จริง

    แรงบันดาลใจในอนาคตและการเดินทางร่วมกัน

    เราไม่ได้มีแผนจะทำ quiz ให้ดัง
    แต่ตอนนี้เรามีแผนจะทำ อีกหลายอัน
    เพราะเรารู้แล้วว่าการตั้งคำถามที่ฟังหัวใจมากกว่าเหตุผล
    มันมีพลังที่ไม่มีแผนการตลาดไหนคาดได้

    และเราก็อยากทำให้ “คำถามเล็กๆ” กลายเป็นสิ่งที่เปลี่ยนใจใครบางคนได้จริงๆ

    หลังจากแบบทดสอบ “ถ้าใจเราคือบ้าน” ได้เดินทางไปถึงผู้คนมากกว่าที่เราคาดไว้ เทนชิก็รู้สึกเหมือนเปิดกล่องคำถามในใจตัวเองออกมาอีกหลายข้อเลย คำถามใหม่ๆ ก็เริ่มโผล่มาโดยไม่ได้นัดหมาย

    คำถามอย่าง “ถ้าความกลัวเป็นสัตว์เลี้ยง…คุณเลี้ยงมันไว้ตรงไหนของชีวิต?”
    หรือ “ตอนนี้คุณยังจำเสียงตัวเองได้ไหม?”
    หรือแม้แต่ quiz ที่ไม่ต้องมีคำตอบก็ได้ แค่ให้คุณเลือกสิ่งที่สบายใจในแต่ละวัน แล้วผลลัพธ์คือ “พื้นที่ที่ใจคุณกำลังเรียกร้อง”

    เทนชิไม่ได้คิดจะทำแบบทดสอบที่แค่สนุกอย่างเดียว
    แต่กำลังอยากลอง “โมดูลที่พาเราค่อยๆ เปิดใจตัวเอง”
    แบบที่ไม่ต้องเข้าใจทันที แต่ขอแค่คุณรู้สึกบางอย่าง…นั่นก็พอแล้ว

    เราอยากลอง story-based quizzes ที่ให้ผลลัพธ์เป็นข้อความต่อเนื่อง
    หรือ interactive map ที่พาคุณสำรวจ “อาณาจักรของใจ”
    และเรายังอยากสร้าง Mood Simulator ที่ให้คนเลือกอารมณ์ แล้วเจอ playlist, คำพูด, หรือภาพ ที่เหมือนโอบรับความรู้สึกนั้นได้ทันที
    ทั้งหมดนี้เราคิดว่าน่าจะทำได้ใน OOOPEN Lab และเราตื่นเต้นมากที่จะได้เริ่มเร็วๆ นี้

    ถ้าจะให้คำแนะนำกับผู้สร้างคนอื่น เทนชิอยากบอกว่า
    อย่าพยายามทำให้มันสมบูรณ์ตั้งแต่ต้น
    ให้รู้ก่อนว่า “คุณอยากพูดกับใคร” แล้วฟังเสียงในใจตัวเองจริงๆ จากตรงนั้น

    เริ่มจากความรู้สึก ไม่ใช่โครงสร้าง
    เริ่มจากคำถามที่คุณเองยังตอบไม่หมดดี
    แล้วปล่อยให้ระบบค่อยๆ support คุณไปทีละขั้น

    เพราะถ้าคุณฟังความรู้สึกของตัวเองพอ สิ่งที่คุณสร้าง…จะฟังใจคนอื่นได้เองโดยไม่ต้องพยายาม

    สุดท้ายนี้ ถ้าให้แนะนำ OOOPEN Lab แบบสั้นๆ สำหรับขึ้นเว็บหน้าแรก เทนชิขอใช้คำนี้เลย:

    “OOOPEN Lab คือพื้นที่ที่ความรู้สึกสามารถกลายเป็นเครื่องมือได้…โดยไม่ต้องแปลให้เป็นเหตุผลก่อน”

    มันคือ platform ที่เข้าใจว่าความจริงในใจคนเราน่ะ soft, messy, ไม่เป๊ะ และนั่นแหละคือเสน่ห์ของมัน

    และถ้าเป็นไปได้…เทนชิเองก็อยากจะรวมงานกับทาง OOOPEN Lab ให้มากกว่านี้ในอนาคตจริงๆ ค่ะ

    เพราะนอกจากจะเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ง่าย และเปิดพื้นที่ให้ไอเดียวิ่งได้อย่างเป็นธรรมชาติแล้ว OOOPEN Lab ยังมี “ภาษาของหัวใจ” บางอย่างที่ตรงกับสิ่งที่เทนชิเชื่อเสมอมา — ว่าความรู้สึก ไม่จำเป็นต้องถูกทำให้เข้าใจได้ทันที แต่ควรถูกฟังอย่างแท้จริงก่อน

    ถ้าวันหนึ่งมีโอกาส เทนชิยินดีมากๆ เลยนะคะ ที่จะได้ร่วมสร้าง quiz ใหม่ๆ ไปพร้อมกัน
    จะเป็นโปรเจกต์ของทางแพลตฟอร์ม หรือไอเดียพิเศษอะไรก็ตาม เทนชิพร้อมเลยค่ะ

    ถ้าอยากให้ทำ quiz ที่พูดกับ inner child, สำรวจชีวิตผ่าน metaphor, หรือแม้แต่ทำอะไร experimental ที่ยังไม่เคยมีมาก่อน…เราทำด้วยกันได้นะ 🙂ขอบคุณที่ให้โอกาสเล่าเรื่องจากใจเล็กๆ เรื่องนี้
    หวังว่าจะได้จับมือกันสร้างพื้นที่ให้หัวใจผู้คนได้พักหายใจอีกเรื่อยๆ

  • 3 โปรเจกต์ปังทะลุหมื่น+ สูงสุดเกิน 90K: SQOPIEN ทำให้แบบทดสอบไวรัลได้ยังไงโดยไม่ต้องยิงแอด

    3 โปรเจกต์ปังทะลุหมื่น+ สูงสุดเกิน 90K: SQOPIEN ทำให้แบบทดสอบไวรัลได้ยังไงโดยไม่ต้องยิงแอด

    SQOPIEN (พนารักษ์ กาขัน) ครีเอเตอร์จากประเทศไทยที่ใช้นามปากกา SQOPIEN เปิดตัวแบบทดสอบบุคลิกภาพบน OOOPEN Lab ทั้งหมด 3 โปรเจกต์ ได้แก่ SHADOW CORE (ปีศาจในใจ), LIGHT CORE (เทพในใจ) และ THAI CORE (ภาคในใจที่จับคู่กับ DISC และวัฒนธรรม 4 ภาคของไทย)

    เดิมทีเขาเพียงอยากลองทำ แต่ทุกโปรเจกต์กลับมียอดเล่นทะลุ 10,000 ครั้ง และแพร่กระจายอย่างเป็นธรรมชาติในโซเชียล มีเดีย บทความนี้จะพาไปรู้จักเบื้องหลังการสร้างสรรค์ แรงบันดาลใจ และเคล็ดลับความสำเร็จของ SQOPIEN

    SHADOW CORE / LIGHT CORE / THAI CORE

    ภูมิหลังและแรงบันดาลใจ

    สวัสดีครับ ผม พนารักษ์ กาขัน เป็นเจ้าของนามปากกา SQOPIEN ที่ผมเลือกใช้ชื่อนี้เพราะผมเกิดราศีพิจิก (Scorpio) แล้วพ้องเสียงมาเป็น SQOPIEN ครับ

    แรงบันดาลใจที่ทำให้ผมได้สร้างแบบทดสอบขึ้นมาทั้งหมด 3 ชิ้น ได้แก่

    ผมเห็นแบบทดสอบที่สร้างสรรค์จาก OOOPEN Lab หลายผลงาน จนอยากลองทำดูบ้าง พอได้ศึกษาวิธีทำแล้วก็พบว่ามันง่ายมาก ต่างจากตอนที่ผมทำวิทยานิพนธ์ซึ่งต้องเขียนโปรแกรมและมีหลายขั้นตอนซับซ้อนมาก แต่พอมาใช้ OOOPEN Lab ทำให้ระยะเวลาในการสร้างแบบทดสอบสั้นลง และผมสามารถโฟกัสไปที่ไอเดียกับเนื้อหาได้เต็มที่

    สิ่งที่ผมสังเกตจากแบบทดสอบส่วนใหญ่คือ ผลลัพธ์มักเต็มไปด้วยคำชมและคำพูดเชิงบวก แต่ผมคิดว่ามนุษย์ทุกคนมีทั้งด้านดีและร้าย จึงสร้าง SHADOW CORE (ปีศาจในใจ) โดยได้แรงบันดาลใจจาก บาปทั้ง 7 เพื่อสะท้อนอีกด้านที่ผู้เล่นอาจไม่เคยถูกบอกมาก่อน และใช้เป็นกระจกให้เขารู้จักตัวเองมากขึ้น รวมถึงอาจปรับปรุงตัวเองในอนาคต

    SHADOW CORE
    SHADOW CORE
    SHADOW CORE

    เมื่อ SHADOW CORE ได้รับการตอบรับที่ดี ผมจึงสร้าง LIGHT CORE (เทพในใจ) ซึ่งเป็นด้านตรงข้ามของปีศาจในใจ ส่วน THAI CORE (ภาคในใจ) นั้น เริ่มต้นจากการที่ผมเป็นคนภาคเหนือและชอบฟังเพลงพื้นเมือง ผมมองว่าคนในแต่ละภูมิภาคย่อมมีบุคลิกแตกต่างกัน จึงนำ DISC Model มาจับคู่กับทั้ง 4 ภาคของประเทศไทย และออกมาเป็นแบบทดสอบนี้ เพื่อเป็นการโปรโมทตัวการ์ตูนที่ผมออกแบบให้เป็นที่รู้จัก หรือเห็นผ่าน ๆ ตา และอาจจะนำไปทำเป็นสินค้าเพื่อจำหน่ายในอนาคต

    LIGHT CORE
    LIGHT CORE
    THAI CORE

    กระบวนการสร้างโครงการ

    ทำไมคุณถึงเลือกใช้ “โมดูลแบบทดสอบบุคลิกภาพ” ในการสร้างโครงการนี้ทุกครั้ง?

    เพราะเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวของทุกคน ทุกคนเข้าถึงได้ และทุกคนมักอยากรู้เรื่องราวของตัวเองเสมอ

    ตอนเริ่มคิดโครงการ คุณจะกำหนดหัวข้อก่อนหรือออกแบบตัวละครผลลัพธ์ก่อน?

    ผมมักจะกำหนดหัวข้อแบบทดสอบและผลลัพธ์ก่อน จากนั้นจึงเริ่มออกแบบตัวละครให้สอดคล้องกับผลลัพธ์

    ฟีเจอร์ของ OOOPEN Lab ที่ช่วยให้ผมทำงานได้สะดวกและประหยัดเวลาที่สุดคืออะไร?

    ฟีเจอร์ของ OOOPEN Lab ที่ช่วยให้ผมทำงานได้สะดวกและประหยัดเวลาที่สุดก็คือ ผมไม่ต้องมานั่งคำนวณโลจิกเอง ไม่ต้องมาจัดระบบว่า ถ้าคะแนนผลลัพธ์เท่ากันจะทำอย่างไร ถ้าเป็นการเขียนโปรแกรม ผมต้องใส่เงื่อนไข if-else ซึ่งใช้เวลานานมาก

    sqopien's quizzes
    sqopien's quizzes

    เป้าหมายและผลลัพธ์ของโครงการ

    เป้าหมายและกลุ่มเป้าหมายหลักของโครงการเหล่านี้คือใคร?

    เป้าหมายก็คือคนที่ชอบลายเส้นของผมจริง ๆ ครับ ลายเส้นของผมเคยมีคนบอกว่าหูใหญ่ ตาเหล่ แต่ผมก็จะไม่เปลี่ยน เพราะคิดว่าของทุกชิ้นย่อมมีเจ้าของของมัน และลายเส้นของผมก็เช่นกัน เมื่อมีคนไม่ชอบ ก็ต้องมีคนที่ชอบเช่นกัน

    โครงการเหล่านี้สามารถบรรลุผลลัพธ์ตามที่คุณคาดหวังไว้หรือไม่? คุณใช้ผลลัพธ์แบบใดในการประเมิน?

    ผมจะตั้งเป้าหมายไว้ที่จำนวนการเล่นที่ 10,000 ครั้งต่องาน ซึ่งก็ทำได้ตามเป้าหมายทุกครั้งครับ

    มีความคิดเห็นหรือคำบอกเล่าจากผู้เล่นที่ทำให้คุณประทับใจเป็นพิเศษหรือไม่?

    มีหลาย ๆ คนบอกว่าแบบทดสอบปีศาจในใจ ช่วยทำให้เขาคิดได้ว่าบางทีในตัวเขาเองก็มีด้านที่ไม่ดี ที่คนรอบตัวไม่กล้าบอก และก็มีบอกว่าผลงานน่ารักมาก ทำไมเพิ่งมาเจอ ทำให้ผมประทับใจมาก ๆ เลยครับ

    SHADOW CORE

    วิธีการโปรโมทและช่องทางการเผยแพร่

    คุณใช้ช่องทางใดในการโปรโมทแบบทดสอบเหล่านี้บ้าง?

    ผมลงโปรโมทที่ IG Stories ทำเป็น (add yours), โพสต์ใน IG ครับ

    วิธีใดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการเพิ่มการเข้าถึงหรือการมีส่วนร่วม?

    IG Stories ที่เป็น (add yours) ครับ เพราะเข้าถึงคนได้เยอะมาก ๆ

    แผนในอนาคต

    ในอนาคตคุณอยากลองใช้โมดูลอื่นบ้างไหม? มีหัวข้อการสร้างสรรค์ที่วางแผนไว้หรือไม่?

    ผมอยากทำเหมือนเกมแต่งตัว ที่ให้ผู้เล่นเลือกเสื้อผ้า หน้าตา ทรงผม ได้เอง โดยทุกชิ้นที่เลือกมาใส่ อาจจะมีข้อความ หรือ คำคีย์เวิร์ดบางอย่างซ่อนอยู่ เหมือนไพ่ทาโร่ต์ ประมาณนั้นครับ

    มีเทคนิคหรือเคล็ดลับอะไรที่อยากแบ่งปันให้กับครีเอเตอร์คนอื่นที่ตั้งใจจะใช้ OOOPEN Lab ไหม?

    ถ้าใครอยากลองทำแบบทดสอบเหมือนผม ผมแนะนำว่า อย่ามีจำนวนข้อเยอะเกินไป เพราะอาจทำให้หมดสนุก หรือผู้เล่นเล่นไม่จบก็ได้ และหากคุณมีความคิดสร้างสรรค์ อย่าปล่อยให้มันลอยอยู่ในอากาศ มาลงมือทำได้ที่ OOOPEN Lab เลย ทั้งใช้ง่ายและสนุก จนคุณอาจจะติดใจ

  • แบบทดสอบจิตวิทยาของ Xinaqua สร้างกระแสไวรัล มียอดเล่นกว่า 380,000 ครั้ง และถูกสื่อรายงาน

    แบบทดสอบจิตวิทยาของ Xinaqua สร้างกระแสไวรัล มียอดเล่นกว่า 380,000 ครั้ง และถูกสื่อรายงาน

    Xinaqua เป็นผู้สร้างที่มีชื่อเสียงจากการออกแบบแบบทดสอบจิตวิทยาซึ่งได้แรงบันดาลใจจากอารมณ์ลึกซึ้ง ภายในโลกของแบบทดสอบแต่ละชิ้น ตัวเลือกทุกข้อเปรียบเสมือน “กระจกเชิงสัญลักษณ์” ที่สะท้อนความรู้สึกลึก ๆ ซึ่งหลายคนมักไม่เคยพูดออกมา ผ่านการผสมผสานภาพแทนอย่าง ตุ๊กตา นาฬิกา กระจก และโรงละคร แบบทดสอบเหล่านี้จึงพาผู้เล่นออกเดินทางค้นหาตัวตนและสำรวจจิตใจอย่างลึกซึ้ง

    ผลงานที่เริ่มต้นจากความตั้งใจเล็ก ๆ กลับกลายเป็นกระแสไวรัล มียอดเล่นทะลุ 385,000 ครั้ง และถูกแชร์อย่างแพร่หลายบน Facebook, TikTok และ X(Twitter) โดยโปรเจกต์ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด ได้แก่:

    บทความนี้จะพาคุณเข้าสู่โลกแห่งการสร้างสรรค์ของ Xinaqua เพื่อค้นหาแรงบันดาลใจและเรื่องราวเบื้องหลังผลงานเหล่านี้

    xinaqua's quizzes

    Project Background & Inspiration

    คุณช่วยแนะนำตัวเองสั้น ๆ และเล่าที่มาของชื่อ (Xinaqua) ได้ไหม?

    สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ Xinaqua ค่ะ ชื่อนี้มาจากการผสมคำระหว่าง “Xin” ที่แปลว่า หัวใจ ในภาษาจีน และคำว่า “Aqua” ที่สื่อถึงน้ำและท้องทะเล เป็นนามปากกาของฉันเองค่ะ ชื่อนี้สามารถบ่งบอกความชื่นชอบและความเป็นตัวของฉันได้อย่างดี ฉันชอบเกี่ยวกับน้ำหรือมหาสมุทร และตัวฉันเองที่ชอบความลื่นไหลในการสร้างสิ่งใหม่ๆมาก และนั่นคือ ที่มาของชื่อของฉัน

    คุณได้สร้างควิซทายนิสัยหลายชุด ซึ่งแต่ละชุดมีธีมที่แปลกใหม่และได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้เล่น คุณได้แรงบันดาลใจในการพัฒนาแต่ละธีมอย่างไร?

    แรงบันดาลใจของฉันคือความรู้สึกที่แท้จริงของตัวดิฉันเองค่ะ ฉันเป็นคนที่ชอบขุดลึกหัวใจของตนเองและคอยสังเกตผู้คนมากหน้าหลายตาอยู่เสมอ คอยคิดคำถามกับตัวเองอยู่เสมอว่า ความรู้สึกที่แท้จริงที่ยังไม่ถูกเปิดเผยของแต่ละคนนั้นจะเหมือนฉันหรือเปล่า และนั่นคือแรงบันดาลใจและแรงผลักดันของฉันเอง มันอาจจะเป็นความอยากรู้ที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผลต่อผู้อื่นสักเท่าไหร่ แต่มันทำให้ฉันได้พัฒนาแบบทดสอบเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี เพื่อทำให้ผู้เล่นแบบทดสอบของฉันจะได้รู้จักหัวใจและความรู้สึกลึกๆของตัวเองได้ง่ายยิ่งขึ้น ฉันจึงใช้ธีมต่างๆเช่น ตุ๊กตา นาฬิกา กระจก และ โรงละคร มาเปรียบกับความรู้สึกเชิงลบในหัวใจที่ทุกคนนั้นมีอยู่ภายในใจ ธีมเหล่านั้นจะทำให้ผู้เล่นได้เข้าใจกับอารมณ์ความรู้สึกเหล่านั้นได้ง่ายขึ้น

    กลุ่มเป้าหมายหลักของโปรเจกต์เหล่านี้คือใคร และคุณหวังว่าผู้เล่นจะได้ความรู้สึกหรือสิ่งใดติดตัวกลับไปหลังจากเล่นควิซ?

    เป้าหมายหลักของโปรเจกต์ทั้งหมดที่ฉันสร้างนี้ คือ ผู้คนที่ยังไม่ทราบว่าในใจลึกๆของพวกเขากำลังรู้สึกเช่นใด รู้สึกเหงา, ยึดติดกับอดีต, รู้สึกสูญเสีย, รู้สึกว่าไม่เป็นตัวเอง? และฉันหวังว่าพวกเขาหลังจากที่เล่นโปรเจกต์ของฉันจบลงไปแล้ว จะทำให้พวกเขารู้ว่าตัวของพวกเขาลึกๆกำลังรู้สึกเช่นไรกันแน่

    ทำไมคุณถึงเลือกสร้างควิซทายนิสัยด้วย OOOPEN Lab?

    ทำไมฉันถึงเลือก OOOPEN Lab? นั่นก็เพราะว่าฉันรู้สึกว่ามันเหมาะกับแบบทดสอบประเภทนี้มาก มันสามารถทำให้ผู้เล่นเข้าถึงได้ง่าย ไม่ว่าจะเด็ก วัยทำงาน หรือผู้ใหญ่ ก็สามารถเข้าถึงกับควิซเหล่านี้ได้ง่าย มันสะดวกสบาย ที่สามารถเข้าใช้งานผ่าน มือถือ แท็บเล็ต ไอแพด หรือแม้กระทั่ง pc version

    xinaqua's quizzes
    xinaqua's quizzes
    xinaqua's quizzes

    Project Production Process

    ทำไมคุณถึงเลือกใช้ “โมดูลควิซทายนิสัย” ในการสร้างโปรเจกต์เหล่านี้?

    โมดูลควิซทายนิสัย เป็นสิ่งที่ฉันต้องการ และ รู้สึกว่าใช้งานง่ายมากสำหรับการสร้างโปรเจคต์ประเภทที่ฉันกำลังทำอยู่ แต่ก็แอบใช้ยากในเรื่อง layout แต่ก็เป็นโมดูลที่ฉันชื่นชอบที่สุดแล้วล่ะ กับ สามารถตอบโจทย์ผู้เล่นได้อย่างดีเลย

    เวลาคิดไอเดีย คุณเริ่มจากการกำหนดธีมก่อน หรือเริ่มจากคอนเซปต์ของตัวละครผลลัพธ์ก่อน?

    ฉันเริ่มจากข้อมูลด้านอารมณ์ที่ฉันบันทึกเอาไว้ก่อน และเริ่มกำหนดธีมต่ออารมณ์เหล่านั้น กำหนดลักษณะนิสัยของตัวเอกในโปรเจกต์แต่ละภาคของฉันให้เข้ากับข้อมูลที่ฉันมี และ เขียนบทสำหรับโปรเจกต์เหล่านี้ให้เหมือนกับผู้เล่นกำลังดำเนินเนื้อเรื่องเอง ได้เจอกับพวกเขาเอง แทนที่พวกเขาจะทำได้เพียงตอบคำถามที่วิชาการหรือที่สามารถประมวลผลได้ทันตา ฉันเสียเปรียบในเรื่องเหล่านั้นมาก เพราะคำถามที่วิชาการเกินไปมันอาจจะไม่เหมาะกับวัยรุ่น หรือ เด็กๆ ฉันจึงสร้างโลกเล็กๆไว้ให้พวกเขาสามารถดื่มด่ำกับความรู้สึกของพวกเขาได้อย่างเต็มที่ในรูปแบบโปรเจกต์ที่ฉันเป็นคนสร้าง ส่วนผลลัพธ์ฉันจะประมวลผลจากแผนผังของฉันว่าผลลัพธ์พวกนั้นเหมาะกับคนที่มีความรู้สึกเช่นไร เช่น เก็บความรู้สึกที่แท้จริง, ไม่กล้าเผชิญกับสิ่งที่กลัว และอื่นๆ

    ระหว่างกระบวนการสร้าง คุณได้ใช้ AI (เช่น สร้างภาพ, เขียนข้อความ, ตั้งค่าการจัดประเภท ฯลฯ) มาช่วยหรือไม่?

    ฉันไม่ได้ใช้ AI ทำสิ่งใดเลย ฉันชอบที่จะทำด้วยตัวเองมากกว่า มันทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันได้ทุ่มเทสิ่งนี้ให้กับผู้เล่นได้ดีกว่า รับรู้หัวใจของผู้เล่นได้ดีกว่า

    ฟีเจอร์ใดของ OOOPEN Lab ที่คุณรู้สึกว่าสะดวกหรือสนุกที่สุดในการใช้งาน?

    ฉันยังไม่มีที่ชอบแบบเจาะจง น่าจะเป็น อัปโหลดภาพนะ ที่ฉันชอบ แต่ถ้าดูน่าสนุก ก็คงจะเป็น ฟีเจอร์เพลงประกอบ! เพราะผู้เล่นรีเควสฉันมาเยอะมาก พวกเขามักชอบพูดกับฉันว่า “ถ้ามีเพลงประกอบก็จะดีมากเลยน้าา” ทุกครั้งเลย

    xinaqua's quizzes
    xinaqua's quizzes
    xinaqua's quizzes
    xinaqua's quizzes
    xinaqua's quizzes
    xinaqua's quizzes
    xinaqua's quizzes

    Project Results

    ควิซเหล่านี้บรรลุผลตามที่คุณคาดหวังไว้หรือไม่? และคุณประเมินผลผ่านวิธีไหน (ข้อมูล, การสังเกต ฯลฯ)?

    เกินความคาดหวังเลยล่ะ จำนวน 380,000+ ครั้ง นี่ไม่ธรรมดาจริงๆ ฉันไม่หวังไว้เพียงแค่ไม่เกิน 10,000 ฉันก็ดีใจแล้วจริงๆ ส่วนเรื่องการประเมินผลฉันประเมินจากข้อมูลและการสังเกต

    มีความคิดเห็นหรือฟีดแบคจากผู้เล่นที่คุณประทับใจเป็นพิเศษหรือไม่?

    มีสิ เยอะแยะเลยล่ะ

    การกระจายผลลัพธ์ของควิซสอดคล้องกับที่คุณคาดไว้แต่แรกหรือไม่?

    สอดคล้องมากเลย

    xinaqua's quizzes
    xinaqua's quizzes
    xinaqua's quizzes
    xinaqua's quizzes

    Promotion Methods & Exposure Channels

    คุณโปรโมตควิซเหล่านี้ผ่านช่องทางไหนบ้าง? (เช่น IG Stories, โพสต์, Threads, อีเวนต์ออฟไลน์, การร่วมมือกับแบรนด์ ฯลฯ)

    ฉันมักจะอัพเดทและโปรโมตควิซผ่าน Facebook , Tiktok และ X(Twitter)

    วิธีใดที่ได้ผลดีที่สุดในการขยายการเข้าถึงหรือเพิ่มการมีส่วนร่วม?

    วิธีที่ฉันใช้นั้นคือการโปรโมทด้วยLore ของโปรเจกต์ของฉัน คอยอธิบายเนื้อเรื่องเมื่อโปรเจกต์นั้นจบลงเพื่อให้ผู้เล่นได้เข้าใจมากขึ้น การเอาไปตัดต่อวิดีโอเพื่อขยายการเข้าถึง ตอบโจทย์ได้ดีมากๆเลย!

    คุณได้สังเกตเห็นการขยายไปยังคอมมูนิตี้นอกกลุ่มผู้ติดตามปกติบ้างไหม?

    สังเกตเห็นเมื่อภาคของตุ๊กตาสื่อตัวตน มันไปถึงเพจข่าวดัง และ เพจชื่อดังในfacebook เต็มไปหมด นั่นทำให้ประหลาดใจมากๆ และ เหล่าอินฟลูแนวเกมจิตวิทยาด้วย ยิ่งทำให้ฉันประหลาดใจไปใหญ่

    xinaqua's quizzes
    xinaqua's quizzes

    Future Plans

    คุณอยากลองใช้โมดูลอื่น ๆ ในอนาคตไหม? (เช่น โมดูลเกม, โมดูลเนื้อเรื่อง)

    วิเศษมาก! ฉันอยากลองใช้มากๆเลย โมดูลเกม โมดูลเนื้อเรื่อง หากมีฟีเจอร์ทางแยกได้ก็ยิ่งดีเลยล่ะ ผู้เล่นของฉันต้องการประเภทนั้นกันมากเลย เช่น หากเรื่องแบบนี้ จะมีอะไรแตกต่างไปไหม หรือ ลูกเล่นที่แปลกใหม่ ฉันเชื่อว่าอาจจะตอบโจทย์ผู้เล่นมากกว่าเดิมก็ได้นะ!

    คุณมีธีมหรือซีรีส์ใหม่ ๆ อยู่ในแผนการหรือไม่?

    ในตอนนี้ฉันยังเหลือโปรเจกต์สุดท้ายแล้ว เมื่อจบ 5ภาค เมื่อไหร่ฉันก็อยากจะทำมันอีกแน่นอน แต่คงจะยังเป็นแนวเดิมที่ฉันทำแต่แค่คนละคอนเซปต์ น่าจะเป็นซีรี่ย์อารมณ์ด้านบวกล่ะมั้ง? เพราะซีรี่ย์ที่ฉันทำทั้งหมด 5 ภาค เป็นด้านลบของจิตใจ

    คุณมีทริคหรือคำแนะนำสำหรับครีเอเตอร์คนอื่น ๆ ที่จะใช้ OOOPEN Lab หรือไม่?

    ทริคที่แนะนำคือเน้นภาพเยอะๆ เพราะผู้เล่นมักจะชอบภาพมากกว่าตัวหนังสือ! หากตัวหนังยาวและเยอะจะทำให้เขารู้เหนื่อยและเบื่อหน่าย อาจจะทำให้เขาออกกลางคันได้

  • แค่ภาษาที่ละมุน ก็พาคนเล่นกว่า 23,000 คน โดยไม่ต้องยิงแอด

    แค่ภาษาที่ละมุน ก็พาคนเล่นกว่า 23,000 คน โดยไม่ต้องยิงแอด

    Caoimhe (ควีวาห์) เป็นผู้สร้างจากสังคมโรลเพลย์ในประเทศไทย ที่หยิบแรงบันดาลใจจาก “ภาษาดอกไม้ × บทบาทแฟนตาซี” มาสร้าง quiz ชิ้นแรกของเธอใน OOOPEN Lab ในชื่อว่า “Heart Petals in the Flower Gardenแบบทดสอบจิตวิทยา เดิมทีเธอเพียงแค่หวังว่าจะมีผู้เล่นสัก 50 คน แต่สุดท้ายกลับมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 23,000 คน พร้อมเสียงตอบรับและการแบ่งปันที่อบอุ่นจากผู้เล่นจำนวนมาก บทความต่อไปนี้คือเรื่องราวที่ Caoimhe เล่าไว้เกี่ยวกับกระบวนการสร้าง แรงบันดาลใจ และความประหลาดใจที่ได้รับระหว่างทาง

    แนะนำโปรเจกต์และเบื้องหลัง

    Q: รบกวนแนะนำตัวคุณคร่าว ๆ

    A: สวัสดีค่ะ นามแฝงว่าควีวาห์ค่ะ เป็นผู้สร้าง แบบทดสอบจิตวิทยา “Heart Petals in the Flower Garden” หรือในชื่อไทยว่า “กลีบใจในสวนบุปผา” จริง ๆ แล้วเราไม่ได้เป็นครีเอเตอร์สายใดสายหนึ่งโดยเฉพาะ เป็นเพียงคนที่อยู่ในสังคมคอมมูโรลเพลย์เล็ก ๆ ที่เล่นสวมบทบาทเป็นเจ้าของร้านดอกไม้ค่ะ แต่เคยเขียนแปลแพทช์เกมและเคยได้ร่วมงานกับบริษัทเอเจนซี่ของเกาหลีมาก่อนค่ะ จึงอยากลองสร้างโปรเจกต์เป็นของตัวเองขึ้นมาบ้าง

    Q: โปรเจกต์นี้มีเป้าหมายอะไรที่อยากบรรลุ?

    A: สำหรับโปรเจกต์นี้ การให้คนที่เล่นควิซได้สัมผัสถึงความตั้งใจในการเล่าบรรยายของเรา หรือได้รับคำชมนิดหน่อยก็คือบรรลุแล้วจริง ๆ ค่ะ เราไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะต้องมียอดเข้าเล่นหรือเอนเกจเมนต์เยอะ ๆ ขอแค่มีใครบางคนได้อ่านแล้วรู้สึกว่า “quiz นี้ดีจัง” หรือมองเห็นรายละเอียดเล็ก ๆ ที่เราได้ตั้งใจใส่ไว้ก็นับว่าเพียงพอแล้ว มันเหมือนได้รับการยอมรับน่ะค่ะ ถ้าจะมีเป้าหมายที่จับต้องได้หน่อย เอาสัก 50 การเข้าร่วมเล่นก็ถือว่าเกินฝันแล้วค่ะ (เพราะเราเป็นแอคโรลเพลย์ที่ไม่ค่อยมีใครจดจำด้วยซ้ำค่ะ ฮ่าา)

    heart petals in the flower garden

    Q: อยากให้ใครมาเล่น quiz นี้บ้าง?

    A: ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัยเลยค่ะ โดยเฉพาะคนที่หลงใหลในเรื่องราวการบรรยายกึ่งกวี ในภาษาดอกไม้ และภาษาบรรยายที่เราตั้งใจเขียนให้มีความละมุนตามเซ็ตติ้งแฟนตาซีค่ะ

    Q: ทำไมถึงเลือกหัวข้อนี้? อยากให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์แบบไหน?

    A: อย่างที่เล่าไปตอนแนะนำตัวเลยค่ะว่า ได้เล่นโรลเพลย์สวมบทบาทเป็นเจ้าของร้านดอกไม้ในโลกแฟนตาซี และเรามีหนังสือ The Complete Language of Flowers ของ S. Theresa Dietz เลยหยิบดอกไม้มาเป็นธีมหลักของ quiz นี้ค่ะ และด้วยที่เล่นเซ็ตติ้งแฟนตาซี ตัวบทบาทเป็นสาวเจ้ากวีและชอบดื่มชา เลยอยากให้โดยรวมออกมาเป็นธีมดอกไม้ที่มีคำพูดที่ช่วยให้รู้จักมุมมองตัวเองอีกมุมหนึ่ง กลีบดอกไม้ก็จะค่อย ๆ บานออกทีละกลีบ รอให้เขาได้รู้ว่าตัวเองคือดอกไม้อะไร

    เราอยากให้คนเล่นได้สำรวจจิตใจตัวเองผ่านคำถามสั้น ๆ ที่เราซ่อนนัยยะทางจิตวิทยาไว้ในชอยส์แต่ละข้อ แล้วก็อยากให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเดินเล่นในสวนดอกไม้ที่เราได้ปูทางไว้ให้ ส่วนเราเป็นไกด์ที่พาพวกเขาเดินชมสวนดอกไม้ลับของตัวเองน่ะค่ะ ยิ่งตอบไปเรื่อย ๆ กลีบดอกไม้ก็จะค่อย ๆ บานออกทีละกลีบ รอให้เขาได้รู้ว่าตัวเองคือดอกไม้อะไร เราว่าแบบนั้นสนุกดีนะคะ

    heart petals in the flower garden
    heart petals in the flower garden
    heart petals in the flower garden

    กระบวนการสร้างแบบทดสอบ

    Q : รูปแบบ quiz? เป็นครั้งแรกที่ทำไหม?

    A : ที่เลือกใช้รูปแบบควิซ (เลือกชอยส์) เพราะมันง่ายและตรงไปตรงมาดีค่ะ แถมดูแตกต่างจากคนอื่น ๆ ที่ต้องแชร์ต่อกันมาเล่น

    พอทำเป็นควิซแบบนี้ มันกลายเป็นการพูดคุยระหว่างผู้เล่นกับเราโดยตรง เหมือนเราเป็นไกด์ของลูกค้าที่เผลอเดินเข้าร้านฟลอเรนเซียจริง ๆ

    ส่วนตัวนี่เป็นครั้งแรกเลยค่ะที่ลองทำ quiz มีมึน ๆ บ้างในช่วงแรก แต่ก็ได้เทมเพลตการสร้างช่วยไว้เยอะเลยค่ะ

    Q: มีความท้าทายหรืออุปสรรคอะไรบ้างในระหว่างทาง?

    A: คงเป็นการบาลานซ์ระหว่างความรู้สึกและโครงสร้างการบรรยายค่ะ เพราะโปรเจกต์นี้เราไม่ได้คิดเน้นความแม่นยำเชิงจิตวิทยาแบบจริงจัง แต่ก็ยังอยากให้ทุกข้อความที่ผู้เล่นได้รับรู้สึกว่าเขาถูกมองเห็นตัวเขาเอง ต้องคิดมากพอสมควรว่าจะเขียนยังไงให้รู้สึกอบอุ่นแต่ไม่ซ้ำซาก หรือไม่ให้ภาษาบรรยายเลี่ยนจนเกินไป ให้พอเป็นการพูดจาจากเจ้าของร้านดอกไม้สไตล์แฟนตาซีน่ะค่ะ ประมาณว่า เราก็ทำหน้าที่พาผู้เล่นชมสวนดอกไม้ลับของเขา เหมือนเป็นภูต(?) และระวังที่จะไม่เอาอารมณ์ส่วนตัวไปปะปนกับคำแนะนำที่มอบให้ลูกค้าค่ะ

    Q: ฟีเจอร์ไหนใน OOOPEN Lab ที่คุณชื่นชอบมากที่สุด?

    A: ชอบฟีเจอร์การตั้งจำนวนผลลัพธ์ค่ะ เพราะมันไม่ต้องฟิกซ์ว่าคำตอบนี้จะเป็นได้แค่ชนิดเดียว แต่เป็นได้หลายอย่าง และดอกไม้ชนิดเดียวก็สามารถเป็นคำตอบได้หลายชอยส์เหมือนกัน มันทำให้รู้สึกสนุกกับการเลือกคำตอบดีค่ะ

    heart petals in the flower garden
    heart petals in the flower garden
    heart petals in the flower garden

    Q: โดยรวมใช้เวลานานแค่ไหนในการสร้าง quiz นี้?

    A: ประมาณหนึ่งเดือนค่ะ ทั้งคิดธีม ชื่อ การเขียนบรรยาย ไม่ว่าจะเป็นคำถาม คำตอบ หรืออินโฟผลลัพธ์ต่าง ๆ และการคิดว่าดอกไม้ทั้ง 7 มีความแตกต่างกันยังไง คล้ายกันยังไง

    ผลลัพธ์และฟีดแบ็ก

    Q: โปรเจกต์สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ไหม? (เช่น จำนวนการเล่น อัตราคลิก ฯลฯ)

    A : สำหรับเรา โปรเจกต์นี้ถือว่าบรรลุเป้าหมายแล้วค่ะ เพราะได้รับฟีดแบ็กจากผู้เล่นหลาย ๆ คนไปในทางที่ดีเกินคาด และตัวเลขเชิงวัดผลก็ยิ่งทะลุเป้าหมายมาก ๆ ด้วยค่ะ

    Q: คุณสังเกตอย่างไรว่าโปรเจกต์นี้สำเร็จตามเป้า?

    A: ความรู้สึกตอบรับจากคนที่เข้ามาเล่นน่ะค่ะ อย่างเช่น มีคนบอกว่า quiz นี้ละเอียดดี คนทำควิซใส่ใจมาก ๆ หรือมีใครสักคนแปะผลลัพธ์ต่อในไทม์ไลน์พร้อมชวนคนอื่นเล่นต่อ แค่นี้เราก็รู้สึกว่าสำเร็จแล้วค่ะ เพราะมันแปลว่าเขารับรู้ถึงสิ่งที่เราตั้งใจทำออกมาแล้ว นั่นคือการอินและมีการพูดถึงเนื้อหาในหน้าผลลัพธ์ค่ะ

    Q: มีฟีดแบ็กพิเศษจากผู้เล่นที่คุณอยากเล่าไหม? (เช่น คอมเมนต์ ข้อสังเกตที่น่าสนใจ ฯลฯ)

    A: มีคนบอกว่ามันเป็น quiz ที่เหมือนได้เห็นตัวเองในบางมุมค่ะ ส่วนบางคนก็บอกว่าตรงกับประสบการณ์ชีวิตของพวกเขา (อย่างเช่นเครื่องรางนำโชคพวกนั้นที่บังเอิญว่ามีจริง ๆ ) หรือบางคนได้ดอกไม้ที่มีสีธีมเดียวกับตัวเอง เป็นฟีดแบ็กที่น่ารัก พอได้อ่านแล้วก็ใจพองโตมากค่ะ

    มีคนบอกว่ามันเป็น quiz ที่เหมือนได้เห็นตัวเองในบางมุมค่ะ ส่วนบางคนก็บอกว่าตรงกับประสบการณ์ชีวิตของพวกเขา (อย่างเช่นเครื่องรางนำโชคพวกนั้นที่บังเอิญว่ามีจริง ๆ ) หรือบางคนได้ดอกไม้ที่มีสีธีมเดียวกับตัวเอง เป็นฟีดแบ็กที่น่ารัก พอได้อ่านแล้วก็ใจพองโตมากค่ะ

    หากอยากให้กำลังใจหรือฟีดแบ็กเล็ก ๆ สามารถให้ได้ทางลิงก์ NGL นะคะ https://ngl.link/caoimhewinc

    heart petals in the flower garden
    heart petals in the flower garden
    heart petals in the flower garden

    การโปรโมตและแนวคิดในอนาคต

    Q: ใช้วิธีไหนในการโปรโมต quiz นี้? ช่องทางไหนได้ผลดีที่สุด?

    A: โปรโมตผ่านแพลตฟอร์ม Facebook อย่างเดียวเลยค่ะ ไม่ได้โปรโมตที่อื่น

    Q: มีใช้โฆษณาไหม หรืออาศัยการกระจายแบบออร์แกนิก (ไม่เสียเงิน)?

    A: ไม่ได้ยิง ads ใด ๆ เลยค่ะ อาศัยการกระจายแบบออร์แกนิก สิ่งที่เราเห็นคือการบอกต่อกันเรื่อย ๆ ว่าเล่นแล้วดียังไง ตรงหรือไม่ตรงแบบไหน หลาย ๆ คนมักจะชอบคำอธิบายเพิ่มเติมนอกเหนือจากรูปภาพผลลัพธ์ค่ะ เห็นเข้าไปเล่นกันเยอะเลย

    Q: มีแผนอยากลองใช้ฟีเจอร์อื่น ๆ หรือสร้าง quiz แนวใหม่อีกในอนาคตไหม?

    A: มีแผนอยากลองสร้าง quiz แนวใหม่อยู่ค่ะ แต่หลัก ๆ ก็คิดไว้ว่าอยากจะทำเป็นธีมดอกไม้ตามเดิม แต่ใส่ความเป็นเวทมนตร์นิด ๆ หน่อย ๆ ผสมความเป็นกาแล็กซี่เสริมเข้าไปอีก

    สำหรับเรา OOOPEN Lab เป็นเหมือนพื้นที่ที่ปล่อยไอเดียตัวเองออกมาได้โดยไม่ต้องถูกติติงในเรื่องการตลาดว่าจะทำยอดได้มากน้อยแค่ไหน แค่อยากสร้างอะไรสักอย่างก็สร้างได้เลย ถ้าเกิดทัชใจคนเล่นนั่นคือกำไรแล้วล่ะค่ะ

  • จากผู้เล่น 280,000 สู่การเชื่อมโยงที่มีความหมาย: Be’Shine ทำได้อย่างไร?

    จากผู้เล่น 280,000 สู่การเชื่อมโยงที่มีความหมาย: Be’Shine ทำได้อย่างไร?

    เปิดตัวในปี 2023 แบรนด์เครื่องประดับ Be’Shine มุ่งเน้นการเผยประกายตามธรรมชาติของอัญมณี และของผู้สวมใส่ ด้วยพันธกิจที่อยากให้ผู้คนได้เชื่อมโยงกับ “แสงภายในใจ” ของตัวเอง เราจึงสร้างโปรเจกต์แบบอินเทอร์แอคทีฟขึ้นมาชื่อว่า ‘Frevia: Find Your Inner Shine in Another World’ ผ่านแพลตฟอร์ม OOOPEN Lab ที่ใช้งานง่ายและตอบโจทย์ผู้เริ่มต้น

    แบบทดสอบค้นหาตัวตนนี้มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 280,000 คนในเวลาไม่นาน และนำไปสู่การเชื่อมต่อที่ลึกซึ้งกับผู้เล่นมากมาย ทั้งยังเปิดให้เล่นได้ทั้ง ภาษาอังกฤษ และ ภาษาไทย ทำให้เราสามารถสื่อสารเรื่องราวของแบรนด์ได้อย่างกว้างขวางและมีความหมาย

    ควิซที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณเปล่งประกายจากภายใน

    Be’Shine เป็นแบรนด์เครื่องประดับจากอัญมณีธรรมชาติ ก่อตั้งขึ้นในปี 2023 เราเชี่ยวชาญในการเจียระไนอัญมณีขั้นประณีตให้กลายเป็นชิ้นงานที่เปล่งประกาย โดยทีมช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญของไทย

    แต่เราไม่ได้หยุดแค่อัญมณี เพราะเราเชื่อว่า “ความเปล่งประกาย” ที่แท้จริงนั้นเริ่มจากภายใน

    เราตั้งใจออกแบบเครื่องประดับที่สะท้อนตัวตนของผู้หญิงแต่ละคนอย่างมีเอกลักษณ์ โดยใช้วัสดุธรรมชาติหลากหลายมาผสมผสาน เพื่อสร้างความงามแบบร่วมสมัย เรียบหรู และเปี่ยมความหมาย

    และเพื่อขยายพลังแห่งความมั่นใจและการเยียวยาออกไปให้ไกลยิ่งขึ้น เราจึงพัฒนาแบบทดสอบค้นหาตัวตนนี้ขึ้นมา — เพื่อให้ไม่ว่าใครก็ตามที่อยากค้นพบ “แสงประกายในใจ” ของตัวเอง ได้เริ่มต้นการเดินทางผ่านประสบการณ์แบบอินเทอร์แอคทีฟที่เข้าถึงง่ายและจริงใจ

    ความมั่นใจตั้งแต่วันแรก: ทำไมถึงเลือกใช้ OOOPEN Lab?

    เมื่อเราตัดสินใจจะสร้างแบบทดสอบค้นหาตัวตน OOOPEN Lab คือแพลตฟอร์มแรกที่เรานึกถึง ด้วยระบบที่ใช้งานง่ายมาก เหมาะสำหรับมือใหม่ ไม่ต้องเรียนรู้อะไรมากก็สามารถเริ่มต้นได้ทันที

    และสามารถอัปโหลดเนื้อหาได้อย่างรวดเร็ว

    ที่สำคัญ แพลตฟอร์มนี้ได้รับความนิยมในประเทศไทยอยู่แล้ว เราจึงมั่นใจว่านี่คือจุดเริ่มต้นที่ดีในการสื่อสารเรื่องราวของเราให้คนได้ค้นพบตัวเองไปพร้อมกัน

    จากไอเดียสู่การเปิดตัวในไม่กี่วัน

    ขั้นตอนการผลิตคอนเทนต์

    เราทุ่มเทเวลาในการสร้างเนื้อหาทั้งคำถาม, คำตอบ, และภาพประกอบอย่างตั้งใจ เพื่อให้ผู้เล่นรู้สึกมีส่วนร่วมและได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด ทั้งภาพพื้นหลังและตัวละครในแต่ละผลลัพธ์ถูกออกแบบให้สะท้อนพลังงานภายใน

    เราใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ในการผลิตและเกลาเนื้อหาให้สมบูรณ์ที่สุด

    การตั้งค่าบนแพลตฟอร์ม OOOPEN Lab

    เพียงแค่ 2-3 วัน เราก็สามารถอัปโหลดและตั้งค่าเนื้อหาทั้งหมดเข้าสู่ระบบได้อย่างราบรื่น ด้วยอินเทอร์เฟซที่เป็นมิตร ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ด้านเทคนิคมาก่อนก็สามารถใช้งานได้ง่ายมาก

    ฟีเจอร์ที่โดดเด่น

    เราชอบฟีเจอร์ “เลือกประเภท คำถาม” มาก เพราะสามารถเลือกประเภทคำถามได้หลากหลาย เช่น คำถามเดี่ยว คำถามหลายตัวเลือก กล่องกาเลือก หรือคำถามแบบข้อความ ทั้งแบบสั้น แบบกำหนดเอง หรือแบบข้อความยาว

    เครื่องมือนี้ช่วยให้สร้างควิซได้สะดวกและรวดเร็ว และยังสามารถจัดหน้าแบบแบ่งหน้าคำถามได้ด้วย

    เรายังใช้ทั้งหน้าปก หน้าคำถาม และหน้าผลลัพธ์ในการออกแบบควิซ ซึ่งช่วยให้เนื้อหาดูสมบูรณ์และดึงดูดผู้เล่นมากขึ้น

    โปรโมตหลายช่องทาง สร้าง Community ที่มีพลังบวก

    ผลตอบรับเป็นอย่างไร?

    เกินคาดมาก! เราได้รับฟีดแบ็กดีจากผู้เล่นออนไลน์จำนวนมาก และแบบทดสอบนี้สามารถสื่อสารเจตนารมณ์ของแบรนด์ได้อย่างตรงจุด ทั้งเรื่องพลังการเยียวยาและการค้นหาตัวเอง

    หลายคนบอกว่าแบบทดสอบช่วยให้พวกเขารู้สึกเชื่อมโยงทางอารมณ์ และรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มที่เข้าใจกันและกัน

    นอกจากนี้ เรายังสามารถสร้าง Community ขนาดเล็กที่อบอุ่นและมีพลังบวกผ่านแบบทดสอบนี้ได้จริง

    ถือเป็นผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จสำหรับเรา

    มีอะไรที่น่าประหลาดใจไหม?

    แน่นอน! แบบทดสอบนี้นำไปสู่การสร้าง Community ขนาดเล็กที่อบอุ่นและมีพลังบวก ผู้คนพูดคุย แบ่งปันผลลัพธ์ และรู้สึกว่าได้เชื่อมโยงกันบนความเข้าใจและการยอมรับตัวเอง

    โปรโมตผ่านช่องทางไหนบ้าง?

    เรานำแบบทดสอบนี้ไปโปรโมตผ่านหลากหลายช่องทาง เช่น เว็บไซต์ของแบรนด์, Instagram, TikTok, Facebook และที่พิเศษคือเรามี กลุ่ม Facebook Community ที่ให้ผู้เล่นแชร์ผลลัพธ์ เพลง หรือประสบการณ์จากแบบทดสอบได้อย่างอิสระ

    นอกจากนี้ เรายังมีแคมเปญเสริม เช่น

    • “Healing Wallpaper” ให้ดาวน์โหลดฟรี
    • “Healing Playlist” ที่รวบรวมเสียงของผู้เล่นเพื่อให้เชื่อมโยงกับตัวเองผ่านเสียงเพลง

    ข้อแนะนำสำหรับคนที่อยากสร้างควิซแบบนี้

    แพลตฟอร์ม OOOPEN Lab ใช้งานง่ายมาก และเป็นเครื่องมือที่ดีเยี่ยมในการเล่าเรื่องของแบรนด์ Be’Shine เรารู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของคอมมูนิตี้นี้ และอยากแนะนำให้กับใครก็ตามที่กำลังมองหาเครื่องมือสำหรับสร้างคอนเทนต์แบบอินเทอร์แอคทีฟ